‘ยูโร’ ที่ต้องรู้

มาแล้วจ้ามาแล้ว… เริ่มต้นลั่นกลองรบระเบิดศึก ยูโร 2020 กันในคืนนี้ ตีสอง กับคู่เปิดสนาม อิตาลี – ตุรกี

เหล่านี้คือทุกสิ่งที่คุณต้องรู้ เพื่อจะได้เข้าถึงความเป็น “ยูโร 2020” มากขึ้นอีกนิด ก่อนจะต้องอยู่กับมันไปตลอด 1 เดือนเต็มข้างหน้า

.

• วันและเวลาทำการ
อย่างที่ทราบ ยูโร 2020 เริ่มเปิดสนามกันคืนนี้ 11 มิ.ย. ซึ่งมีเพียงคู่เดียว อิตาลี – ตุรกี เปิดตัวแบบเดี่ยว ๆ แต่ว่านับจาก วันเสาร์ 12 มิ.ย. เป็นต้นไป จะมาแบบปูพรมถล่ม “วันละสามแมตช์” ในเวลา 2 ทุ่ม / 5 ทุ่ม / ตี 2 รัว ๆ นัว ๆ กันไปจนกว่าจะถึง แมตช์ที่สาม นัดตัดสินของรอบแบ่งกลุ่ม (21 มิ.ย.) ซึ่งจะปรับมาเตะพร้อมกันในกลุ่มนั้น ๆ แบ่งเป็นสองช่วงเวลาคือ ห้าทุ่ม กับ ตีสอง เช่นเดียวกับรอบน็อคเอาต์ ก็จะเป็น ห้าทุ่ม/ตีสอง เหมือนกัน จนกระทั่งนัดชิงชนะเลิศ เตะตอนตีสองของอาทิตย์ที่ 11 ก.ค.

.

• โควิดเป็นเหตุ
ที่จริง ยูโร 2020 ต้องเตะจบกันไปทั้งแต่กลางปีที่แล้ว แต่ด้วยวิกฤตไวรัสโควิด-19 ทำให้ต้องเลื่อนมาถึงวันนี้ (โดยใช้ชื่อเดิม ไม่ใช่ ยูโร 2021) และมีการเพิ่มกฏเกณฑ์บางอย่างขึ้น อาทิ
— ยูฟ่า ปรับเพิ่มจำนวนผู้เล่นให้แต่ละชาติสามารถส่งชื่อได้ทั้งหมด 26 คน เพื่อลดความเสี่ยงต่อการสูญเสียผู้เล่นระหว่างทาง แต่ก็จำกัดจำนวนการใส่ชื่อ นักเตะในแต่ละเกม ได้ที่ 23 คน แบ่งเป็นตัวจริง 11 สำรอง 12
— ในแต่ละแมตช์ที่ม้านั่งข้างสนาม ทุกทีมสามารถนั่งได้ไม่เกิน 18 คน คือผู้เล่นสำรอง 12 และทีมสตาฟฟ์อีก 6 คน อันรวมถึงแพทย์ประจำทีม นอกนั้นก็จะมีอีก 5 ที่สำหรับฝ่ายเทคนิค (สตาฟฟ์โค้ช)
— ไม่ว่าจะเตะที่ไหน ผู้เล่นก็ต้องพกเอกสารแสดงตัวตามกฎหมาย เช่น พาสปอร์ต หรือบัตรประชาชน ไว้สำหรับตรวจเช็กได้เสมอ หากไม่มี จะไม่ได้รับอนุญาตให้ลงแข่ง
— ใน 90 นาที เปลี่ยนตัวได้ 5 คน ในโอกาสเปลี่ยนรวม 3 ครั้ง / แต่เมื่อถึงรอบน็อคเอาต์ และเกมนั้น ๆ มีการต่อเวลาพิเศษ จะสามารถเปลี่ยนเพิ่มได้ รวมเป็น 6 คน
— ยังมี “กฎแฮนด์บอลใหม่” คือหากบอลบังเอิญโดนมือนักเตะในจังหวะที่นำไปสู่การทำประตู จะ “ไม่โดนจับเป็นแฮนด์บอล” และจะให้เป็นประตูทันที ต่างจากบอลลีกทั่วไปที่เราเคยเห็นกัน (และจะยึดกฏใหม่นี้ยาวไปในโลกฟุตบอลซีซั่นหน้า)
— จะมีการใช้ “วีเออาร์” เช่นเดียวกับบอลใหญ่ทุกรายการ แต่ก็นับเป็นครั้งแรกสุดที่ยูโรรอบสุดท้าย ได้ต้อนรับเทคโนโลยีนี้

.

• ครบแซยิด
ไอเดียนี้มาจาก มิเชล พลาตินี่ ประธานคนเก่าของยูฟ่า ที่ต้องการให้ ยูโร 2020 เป็นการ จัดร่วมกันของทั้งทวีป ในวาระที่ครบรอบ 60 ปีทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์ยุโรป (จริง ๆ คือ 63) จึงกระจายสิทธิ์การเป็นเจ้าภาพไปยังหลายประเทศ ซึ่งตอนแรกมี 13 ชาติ แต่สุดท้าย เบลเยียม กับ ไอร์แลนด์ ถอนสมอไปเนื่องจากความไม่พร้อมบางประการ คงเหลือชาติเจ้าภาพไว้ 11 แห่ง
— รอบแบ่งกลุ่ม / รอบ 16 ทีม : อัมสเตอร์ดัม (เนเธอร์แลนด์ส), บูคาเรสต์ (โรมาเนีย), บูดาเปสต์ (ฮังการี), โคเปนเฮเก้น (เดนมาร์ก), กลาสโกว์ (สกอตแลนด์), เซบีย่า (สเปน)
— รอบแบ่งกลุ่ม / รอบ 8 ทีม : บากู (อาเซอร์ไบจาน), มิวนิค (เยอรมนี), โรม (อิตาลี), เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก (รัสเซีย)
— รอบแบ่งกลุ่ม / รอบ 16 ทีม / ตัดเชือก / นัดชิงชนะเลิศ : ลอนดอน (อังกฤษ)

.

• สวัสดียูโร
ในการคัดเลือกอันยาวนานกินเวลาร่วมปีครึ่ง 262 แมตช์ ปรากฏผลสุดท้ายเป็น ผู้เข้ารอบ 24 ชาติ
กลุ่มเอ : อิตาลี, สวิตเซอร์แลนด์, ตุรกี, เวลส์
กลุ่มบี : เบลเยียม, รัสเซีย, เดนมาร์ก, ฟินแลนด์
กลุ่มซี : ยูเครน, เนเธอร์แลนด์ส, ออสเตรีย, มาซิโดเนียเหนือ
กลุ่มดี : อังกฤษ,​ โครเอเชีย, สาธารณรัฐเช็ก, ​สกอตแลนด์
กลุ่มอี : สเปน, โปแลนด์, สวีเดน, สโลวาเกีย
กลุ่มเอฟ : เยอรมนี, ฝรั่งเศส, โปรตุเกส, ฮังการี

ในขณะที่ “ผู้อกหัก” ไม่สามารถมาโชว์ตัวรอบสุดท้ายได้ มีอาทิ บัลแกเรีย, เซอร์เบีย, ไอร์แลนด์เหนือ, ไอร์แลนด์, โรมาเนีย, ไอซ์แลนด์, อัลเบเนีย, กรีซ, บอสเนียฯ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง นอร์เวย์ ที่อุตส่าห์มียุคทองเรื่องขุมกำลัง นำมาโดย เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาแลนด์, มาร์ติน โอเดการ์ด, ซานเดอร์ เบอร์เก้, อเล็กซานเดอร์ ซอร์ล็อธ แต่ก็ดันร่วงรอบเพลย์ออฟ (แพ้เซอร์เบีย) ไปเสีย

ผลทำให้มี 2 ชาติ ที่จัดเป็น “น้องใหม่” ยูโรรอบสุดท้าย คือ
— ฟินแลนด์ : เข้ารอบทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ครั้งแรกสุดของประเทศเลย (บอลโลกก็ไม่เคยไป) หลังจากทำได้อย่างยอดเยี่ยมในรอบคัดเลือก ชนะ 6 แพ้ 4 จากสิบนัด ตาม อิตาลี เข้ามาเป็นอันดับสอง โดยเขี่ย กรีซ กับ บอสเนียฯ ร่วงไป ทีมชุดนี้นำโดย ตีมู พุคกี (นอริช), ลูคัส ฮราเด็คกี้ (เลเวอร์คูเซ่น), โยเอล โปห์ยานปาโล (อูนิโอ เบอร์ลิน)
— มาซิโดเนียเหนือ : เดิมที เป็นที่รู้จักกันในชื่อ มาซิโดเนีย เฉย ๆ (Republic of Macedonia) หลังแยกตัวออกจาก ยูโกสลาเวีย ในปี 1994 และเพิ่งเปลี่ยนเป็น North Macedonia จากข้อตกลงเปรสปา (Prespa agreement) ตอนต้นปี 2019 นี่เอง และประสบความสำเร็จในทันทีกับรอบคัดเลือกยูโรหนนี้ โดยแม้จะจบอันดับ 3 ของกลุ่มจี (โปแลนด์, ออสเตรีย, สโลวีเนีย) แต่ก็ไปได้เฮกับเพลย์ออฟ Path D ชนะ จอร์เจีย 1-0 นัดชิงฯ และทีมชุดนี้ยังคงมี โกรัน ปานเดฟ ดาวยิงจากเจนัว ในวัย 37 เป็นกัปตัน (รับใช้ชาติมาแล้ว 119 นัด) ร่วมด้วย เอซยาน อลิออสกี้ (ลีดส์), เอลิฟ เอลมาส (นาโปลี), อเล็กซานดาร์ ไทรคอฟสกี้ (มายอร์ก้า)

.

• ระบบเดิมๆ
จาก 24 ทีมในรอบแบ่งกลุ่ม อันดับที่ 1 และ 2 ของกลุ่ม จะได้ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายโดยอัตโนมัติ ร่วมกับทีมอันดับ 3 อีก 4 ทีมที่ทำผลงานได้ดีที่สุด อันหมายถึงว่าจะมี อันดับสามเพียงสองทีม ที่ใจสลาย ไม่ได้ไปต่อรอบน็อคเอาต์
ส่วนการวัดผลในกรณีแต้มเท่า จะใช้ระบบ เฮดทูเฮด ผลการเจอกันของทีมนั้น ๆ มาก่อนเรื่องของผลต่างประตูได้เสีย
(1.เฮดทูเฮด > 2.ผลต่างประตูได้เสีย > 3.ประตูได้)

.

• เต็งแชมป์
วิลเลี่ยม ฮิลล์ ร้านพูลหัวแถวของอังกฤษ กำหนดอันดับตัวเต็งไว้ดังนี้
9/2 ฝรั่งเศส
5/1 อังกฤษ
6/1 เบลเยียม
8/1 อิตาลี, เยอรมนี, โปรตุเกส, สเปน
14/1 เนเธอร์แลนด์ส
28/1 เดนมาร์ก
33/1 โครเอเชีย
50/1 ตุรกี
75/1 สวิตเซอร์แลนด์
80/1 โปแลนด์
100/1 ยูเครน, สวีเดน, รัสเซีย
v
500/1 ฟินแลนด์, มาซิโดเนียเหนือ

.

• บอลและมาสค็อต
ลูกฟุตบอลที่ใช้ในทัวร์นาเมนต์ มีชื่อว่า “ยูนิโฟเรีย” (Uniforia) ซึ่งมีที่มาจากคำว่า Unity ความเป็นหนึ่งเดียว บวกกับ Euphoria ความสนุกสนาน ผลิตโดย อาดิดาส เจ้าเก่า โดยลวดลายบนลูกฟุตบอล มีความหมายถึงการเชื่อมต่อเส้นทางและอาณาเขตพรมแดนที่ติดต่อกัน รวมถึงความหลากหลายทางสัญชาติของแฟนบอลและนักเตะ ที่ถูกผสมผสานผ่านทางศิลปะและกีฬาฟุตบอล
ด้านมาสค็อตประจำรายการ มาแปลกแหวกแนว ไม่ใช่หมูหมากาไก่เหมือนที่อื่น โดยเป็นหนุ่มน้อยจอมลีลาฟรีสไตล์ฟุตบอล-สตรีทฟุตบอล ชื่อ “สกิลซี่” (Skillzy)

.

• เงินรางวัล
แค่ผ่านเข้ามารอบสุดท้ายได้ แต่ละชาติรับเข้ากระเป๋าแล้ว 9.25 ล้านยูโร ในขณะที่ “ทีมแชมป์” จะฟันเงินรางวัลรวมประมาณ 34 ล้านยูโร
เข้ารอบสุดท้าย – 9.25 ล้านยูโร
รอบแบ่งกลุ่ม – ชนะ รับแมตช์ละ 1.5 ล้านยูโร / เสมอรับ 7.5 แสน
รอบ 16 ทีม – 2 ล้านยูโร
รอบ 8 ทีม – 3.25 ล้านยูโร
รอบตัดเชือก – 5 ล้านยูโร
รองแชมป์ – 7 ล้านยูโร
แชมป์ – 10 ล้านยูโร

.

• ไปไม่ไป
จากการประกาศชื่อและใส่เข้า-ถอนออก ตลอดช่วงที่ผ่านมา ปรากฏมี “แข้งอกหัก” อยู่เพียบ หลากสตาร์และหลายทีมชาติ ที่ไม่ได้ไปยูโรหนนี้ด้วยสารพัดเหตุผล ไม่ว่าจะบาดเจ็บ, ไม่ฟิตพอ, ขอพักเอง หรือโดนโค้ชเมินไม่เรียกตัว ซึ่งมีอาทิ…

เยอรมนี : มาร์ก-อันเดร แทร์ สเตเก้น, มาร์โก รอยส์, ยูเลี่ยน บรันท์, ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์, ติโล เคห์เรอร์
อังกฤษ : อารอน วาน-บิสซาก้า, เมสัน กรีนวู้ด, เจสซี่ ลินการ์ด, นิค โป๊ป, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เอริก ไดเออร์, แฮร์รี่ วิงค์ส, แดนนี่ อิงก์ส
ฝรั่งเศส : ดาโยต์ อูปาเมกาโน่, แฟร์กล็องด์ เมนดี้, ตองกี เอ็นดอมเบเล่, อองโตนี่ มาร์กซิยาล
สเปน : เซร์คิโอ รามอส, เซร์คิโอ เรกีลอน, ซาอูล ญีเกซ, เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า, เซร์จี้ โรเบร์โต้, เอ็กตอร์ เบเยริน, ดานี่ การ์บาฆัล, มาร์โก อเซนซิโอ, ดานี่ เซบายอส, โรดริโก้ โมเรโน่
โปรตุเกส : อันเดร โกเมส, เปโดร เนโต้
สวีเดน : ซลาตัน อิบราฮิโมวิช
อิตาลี : อเลสซิโอ โรมันโยลี่, ซานโดร โตนาลี่, มอยเซ่ คีน, สเตฟาน เอล ชาราวี
เดนมาร์ก : ลาสเซ่ โชเน่, ฟิลิป บิลลิ่ง, ปิโอเน่ ซิสโต้, คริสเตียน กิทเคียร์
เบลเยียม : อัดนาน ยานาไซ, ดิว็อค โอริกี้
เนเธอร์แลนด์ส : ยาสเปอร์ ชิลเลสเซ่น, ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค, สตีเฟ่น เบิร์กไวน์, ไรอัน บาเบิล

สำหรับ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ปราการหลังลิเวอร์พูล ที่พักมาตลอดซีซั่น ไม่ได้ไปร่วมเตะ แต่ถูก แฟร้งค์ เดอ บัวร์ หิ้วติดทีมเนเธอร์แลนด์สไปด้วยในฐานะ สตาฟฟ์โค้ช หนึ่งในทีมหลังบ้านทัพกังหัน

.

• ข่าวดี
ปิดท้ายด้วยข่าวดีที่ทุกคนคงทราบกันแล้ว และเป็นที่ยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วเช่นกัน ภายหลังทุกคนต่างลุ้นอยู่แบบห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ ด้วยความเข้าใจในวิกฤตโควิด (ซึ่งทำให้นายทุนไม่กล้าสู้ค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด)

เพจเฟซบุ๊ก NBT2HD SPORT แจงชัด “ยูโร 2020 สดและฟรีที่ NBT2HD” เริ่มคู่แรก คืนนี้ตีสอง อิตาลี vs ตุรกี

กรมประชาสัมพันธ์ ที่กำกับดูแลช่องทีวีดิจิตอล NBT ได้รับคำสั่งให้ถ่ายทอดสด ยูโร 2020 ตลอดทั้งรายการ

แหล่งข่าวบอก อันที่จริงได้รับคำสั่งจากผู้ใหญ่ในรัฐบาล ให้ติดต่อเตรียมการซื้อลิขสิทธิ์และถ่ายทอดสด ยูโร 2020 มานานแล้ว แต่ยังไม่ออกข่าว เนื่องจากเกิดความไม่เรียบร้อยในบางประการ ต่อมาเมื่อเคลียร์ปัญหาได้ทั้งเรื่องของการซื้อลิขสิทธิ์และการออกอากาศลงตัว รวมถึงเคลียร์กับเจ้าของลิขสิทธิ์อย่างยูฟ่าได้ จึงมีคำสั่งด่วนให้ถ่ายทอดสดตลอดทัวร์นาเมนท์

คืนละ 2-3 คู่ตลอด 1 เดือนเต็ม

พร้อมจะเป็น ซอมบี้ กันหรือยังพวกเรา?!?

‘

• ไกด์เถื่อน เรียบเรียง •
ปล. และนอกจากยูโรแล้ว ดึกวันอาทิตย์ 13 มิ.ย. นี้ ก็ต้อนรับ โคปาอเมริกา 2021 ออกสตาร์ทไปพร้อม ๆ กันสำหรับทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์อเมริกาใต้ที่ประเทศบราซิล (เจ้าภาพร่วมเดิม อาร์เจน-โคลอมเบีย โดนริบสิทธิ์ไปทั้งคู่) นัดเปิดสนาม บราซิล – เวเนซุเอล่า เริ่มเตะตี 4 คืนวันอาทิตย์ (โปรแกรมจะมี ตี 4 กับ 7 โมงเช้า ซ้ำไปเรื่อย ๆ) แล้วลากยาว ๆ ไปจบเอา 10 ก.ค.