ก่อนจะชิงแชมป์ ยูโร 2020 กันวันอาทิตย์นี้ กัซเซ็ตต้า เดลโล่ สปอร์ต ยื่นไมค์ไถ่ถามทรรศนะของ อันโตนิโอ คอนเต้ ผู้เป็นยิ่งกว่ากูรูและเซเล็บ เมื่อกุนซือว่างงานวัย 51 เคยทั้งนั่งเก้าอี้คุมทีมชาติอิตาลี และทั้งคุมทีมสโมสรในอังกฤษอย่าง เชลซี มาแล้ว (โดยไม่ต้องนับช่วงค้าแข้ง) จึงรู้จักนักเตะและ “เข้าใจฟุตบอล” ทั้งสองฝั่ง เป็นอย่างดี
.
เหล่านี้ คือคำให้การของ คอนเต้ ผู้ซึ่งมั่นใจว่าท้ายที่สุดแล้ว อัซซูร์รี่ จะสยบ อังกฤษ แล้วพุ่งเข้าชนโทรฟี่แชมป์ยุโรปสมัย 2 เป็นผลสำเร็จ…
.
มาตรงนี้ได้เพราะคู่ควร
อย่างที่ทราบกัน อิตาลี ในการทำทีมของ โรแบร์โต้ มันชินี่ ไม่แพ้ใครมาเป็นระยะเวลานานนับปี หรือรวมเป็น 33 แมตช์ติดต่อกัน
.
สาระสำคัญก็คือผลงานในรอบสุดท้ายยูโร “อัซซูร์รี่” ยังคงแข็งแกร่งไม่มีเปลี่ยน ชนะรวด 3 นัดรอบแรก ตามด้วยตบ ออสเตรีย, เบอร์ 1 โลก เบลเยียม และแชมป์สามสมัย สเปน ร่วงน็อคเอาต์ไป
.
คอนเต้ ยกย่องเชิดชู อิตาลี ของมันโช่ ว่า “อิตาลี สมควรที่จะเข้ารอบชิงชนะเลิศอย่างแท้จริง เพราะพวกเขาพิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเป็นทีมที่สมบูรณ์กว่าทุกคู่แข่งที่ลงเผชิญหน้า และสามารถรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่หลากหลาย ทั้งจังหวะที่มีและไม่มีลูกบอล”
.
“พวกเขาพยายามรักษาไอเดีย, อัตลักษณ์ และสไตล์ของตัวเองอยู่เสมอ แต่ก็สามารถปรับให้เข้ากับคุณภาพทางกายภาพ เทคนิค และยุทธวิธีของคู่ต่อสู้ เพื่อค้นหาวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้ได้ผลลัพธ์สูงสุด”
.
เหมาะจะชนะกระทิง
ท่านว่า การดวลจุดโทษ ก็เหมือนเสี่ยงหัวก้อย
.
ในแง่นี้ ถือว่า อิตาลี “เกือบไป” เหมือนกันหลังจากโดน สเปน ตีเสมอ 1-1 ในรอบตัดเชือก จนกระทั่งเกมต้องยื้อไปถึงฎีกา และ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า เซฟช่วยชาติเอาไว้จนเบียดชนะ 4-2
.
อย่างไรก็ตาม คอนเต้ มองว่า สเปน ไม่ได้คู่ควรจะกำราบ อิตาลี ลงแต่ประการใด
.
“ด้วยวิธีที่ผมมอง การ ‘ครองเกม’ หมายถึงการสร้างโอกาสเพื่อทำประตู และสร้างสรรค์สถานการณ์อันตรายต่อคู่แข่ง ในแง่นี้ ‘การครองเกม’ ของสเปน ในเกมที่เจอกับอิตาลีจึงถือว่าไม่ชัดเจนนัก หากการครองบอลนั่นไม่ได้ใช้ช่องทางเจาะเข้าหาเป้าหมาย หรือสร้างสถานการณ์ตัวต่อตัวที่ริมเส้น มันก็ไม่ได้มีความหมายอะไร”
.
“การครองเกมเป็นเรื่องของพื้นฐานการเล่นมากกว่าการทำสถิติครอบครองบอล เพราะคุณสามารถเก็บบอลได้นานตราบเท่าที่คุณต้องการ แต่ถ้าคุณไม่สร้างสารรค์โอกาสจบสกอร์ ไม่ได้จังหวะยิง และไม่ทำประตู คุณก็ไม่มีทางชนะ”
.
กำแพงเหล็กสีน้ำเงิน
แม้จะเสียประตูมาตลอด 3 เกมน็อคเอาต์ (2-1 ออสเตรีย, 2-1 เบลเยียม, 1-1 สเปน) แต่กระแสยกย่องที่มีต่อปราการหลังอิตาลี ก็ดังระงมอย่างต่อเนื่อง ชนิดว่าคงไม่พลาดจะติดทีมยอดเยี่ยมทัวร์นาเมนต์–ไม่ว่าผลนัดชิงจะออกหน้าไหนก็ตาม
.
คอนเต้ เป็นอีกคนที่อยากลุกขึ้นปรบมือให้กับ “กำแพงเหล็กสีน้ำเงิน” ชุดนี้
.
“อิตาลีเป็นทีมที่เอาชนะได้ยาก เพราะเราเตรียมตัวเป็นอย่างดีกันตลอด เราไม่ทิ้งที่ว่างให้คู่แข่งได้เล่น และสร้างวิธีการที่ซับซ้อนอยู่เสมอ”
.
“เรายังมีกำแพงที่สร้างโดย จานลุยจิ ดอนนารุมม่า, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ และ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ ผมถือว่า ดอนนารุมม่า เป็นหนึ่งในสามผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลก และเราจะวิจารณ์อะไรเกี่ยวกับโบนุชชี่และคิเอลลินี่ได้บ้างล่ะ?”
.
“แม้หลังจากการต่อสู้นับพันครั้ง พวกเขาก็ยังกระหายเลือด สภาพจิตใจแบบผู้ชนะ, แคแรกเตอร์, ความแข็งแกร่ง ในแง่ของการรับมือกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก พวกเขาคือผู้เล่นชั้นนำของแท้”
.
อ่านสิงโตให้ขาด
ไม่แพ้ใครมา 33 นัดติด และขออีกแค่เกมเดียว เพิ่มระยะขึ้นเป็นเกมที่ 34 อิตาลี ก็จะถึงฝั่งฝัน
.
ในฐานะโค้ชคนคุ้นเคย คอนเต้ จึงเอ่ยปากแนะเคล็ดลับบางอย่างให้ มันชินี่ จดจำและนำไปใช้ในนัดชิงชนะเลิศ ที่เวมบลีย์ อาทิตย์นี้
.
“ต่างไปจากสเปน ที่มักส่งบอลย้อนหลังเป็นหลัก อังกฤษจะพยายามโจมตีคุณในสถานการณ์แบบตัวต่อตัวเสมอ หลายคนยกย่อง แฮร์รี่ เคน สำหรับความสามารถของเขาในการเก็บบอลและเล่นกับทีม ดูอย่างประตูตีเสมอเดนมาร์ก แน่นอนว่าเขาทำได้ดีเช่นกัน แต่ถ้าในฐานะโค้ชแล้ว การให้เขาปักหลักในกรอบเขตโทษจะอันตรายกว่าเสมอ”
.
“พวกเขายังมีมิดฟิลด์ที่แข็งแกร่งมากสองคน อย่าง ดีแคลน ไรซ์ และ แคลวิน ฟิลลิปส์ ที่สร้างสมดุลได้ แต่มีการจ่ายบอลในพื้นที่สุดท้ายน้อยมาก ส่วนใหญ่พวกเขาจะพยายามเล่นง่าย ๆ เข้าไว้”
.
“แต่จุดอ่อนของอังกฤษคือ ถ้าแนวรับของพวกเขาถูกกดดันด้วยการสร้างเกมจากแนวหลัง พวกเขาจะหนีจากการเพรสซิ่งได้ไม่ดีเท่ากับสเปน อย่างไรก็ตาม หากคุณเดินหน้าบุกอย่างเต็มรูปแบบ แล้วพวกเขาขโมยบอลกลับไปได้ ก็จงระวังความเร็วในแดนหน้าของพวกเขาให้ดี”
.
“นี่จะเป็นอีกครั้งที่ อิตาลี ต้องแสดงประสบการณ์การอ่านเกม ในช่วงเวลาต่าง ๆ ของเกม”
.
It’s Coming Home or Rome
สำหรับแรงกดดันในการไล่ล่าแชมป์เมเจอร์แรก ถัดจากปี 1966 ของอังกฤษนั้น… “มันอาจกลายเป็นลมหวนในใบเรือ หรือเป็นสมอเรือขนาดมหึมาที่ถ่วงพวกเขาไว้”
.
“เราจะมีแฟนบอลได้เข้าไปในสนามน้อยกว่าพวกเขา แต่เรามีประสบการณ์ที่กลางสนามมากกว่าพวกเขา เรารู้ว่าการเล่นรอบชิงชนะเลิศหมายความว่าอย่างไร และเรายังรู้วิธีที่จะเอาชนะพวกเขาด้วย!”