ผ่านพ้น 1 เดือนเต็มอันเปี่ยมสุข สนุกสนานตื่นเต้นลุ้นระทึกตั้งแต่หัวค่ำย่ำดึกลากมาถึงรุ่งสาง กับการชิงชัยเฟ้นหาเบอร์ 1 แห่งทวีปยุโรป “ยูโร 2020” และเจ้าแห่งอเมริกาใต้ “โคปา อเมริกา”
แม้ไม่ถึงกับ “เหม่อเลย” เมื่อสองรายการข้างต้นสิ้นสุดลง เพราะยังคงมีบรรดาบอลเล็กยิบย่อยให้ได้ติดตามอยู่แทบทุกวัน แต่ก็ต้องนับว่านี่คือช่วง ตามสบายพัก ของแท้สำหรับแฟน ๆ จนกว่าที่ลีกยุโรปฤดูกาลใหม่ 2021/22 จะเปิดฉากขึ้นกลางเดือนหน้า
ซึ่งจนกว่าจะไปถึงตรงนั้น ก็อย่างที่บอกว่ายังคงมีฟุตบอลรายการอื่น ๆ ให้ได้ติดตามกันอยู่
หมดยูโรจบโคปาแล้วไงต่อ? U12Sports รวบรวมไว้ให้แล้วตรงนี้อย่างครบถ้วนกระบวนความ…
.
คอนคาเคฟโกลด์คัพ
10 ก.ค. – 1 ส.ค.
เปิดฉากขึ้นอย่างเงียบ ๆ แล้วก็ลงเตะกันในทุกเช้า (เวลาไทย) แบบไม่ค่อยจะมีใครใส่ใจติดตามนัก สำหรับศึกชิงแชมป์อเมริกากลาง-อเมริกาเหนือ-แคริบเบียน คอนคาเคฟ โกลด์ คัพ 2021
นี่คือ โกลด์ คัพ ครั้งที่ 16 อันจะจัดกันทุก ๆ สองปีครั้ง หนก่อนปี 2019 เม็กซิโก ครองแชมป์ (สมัยที่ 8 ) ซึ่งพวกเขาสลับกันได้แชมป์กับ สหรัฐอเมริกา (6) มาตลอด โดยมีเพียง แคนาดา โผล่มาคว้าโทรฟี่ไปได้หนนึงเมื่อปี 2000
โกลด์ คัพ ครั้งนี้ถูกจัดขึ้นที่สหรัฐฯ ใน 10 สนามของ 9 รัฐ โดย อัลลิไจแอนท์ สเตเดี้ยม (Allegiant Stadium) สังเวียนใหม่อายุปีเดียว ความจุ 61,000 คนในเมืองพาราไดซ์ เนวาด้า ถูกวางไว้เป็นเจ้าภาพนัดชิงชนะเลิศ
ความใหม่ของรายการนี้ นอกเหนือจาก “วีเออาร์” ที่ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกแล้ว ก็ยังมี แขกรับเชิญ จากทวีปเอเชีย อย่าง กาตาร์ เจ้าภาพฟุตบอลโลก 2022 ถูกเชิญมาร่วมสังฆกรรม
กลุ่มเอ – เม็กซิโก, เอล ซัลวาดอร์, ตรินิแดด&โตเบโก, กัวเตมาลา
กลุ่มบี – สหรัฐอเมริกา, แคนาดา, ไฮติ, มาร์ตินีก
กลุ่มซี – คอสตาริกา, จาไมก้า, กวาเดอลู้ป, ซูรินัม
กลุ่มดี – ฮอนดูรัส, ปานามา, เกรนาด้า, กาตาร์
(2 อันดับแรกของแต่ละกลุ่ม เข้ารอบ)
รอบแรกของ โกลด์ คัพ 2021 ผ่านไปได้ระยะหนึ่งแล้ว ล่าสุดก็ได้ทีมเข้ารอบน็อคเอาต์ 8 ทีมสุดท้าย รายแรกแล้ว คือ เอล ซัลวาดอร์ จากกลุ่มเอ ที่ชนะรวด 2 นัดแรก ส่วนพวกตัวเต็งอย่าง เม็กซิโก, สหรัฐอเมริกา หรือ แคนาดา ต่างก็อยู่ในสถานการณ์ที่ดี มีโอกาสสูงที่จะตีตั๋วตามสมควร
โกลด์ คัพ 2021 จะลงเตะกันไปอย่างเงียบ ๆ แบบนี้ ในทุกเช้าของบ้านเรา โดยจะมีเบรคพักบ้างตามธรรมเนียมเมื่อถึงรอบน็อคเอาต์ กระทั่งถึงชิงชนะเลิศกัน 1 ส.ค. หรือช่วงเช้าวันจันทร์ 2 ส.ค. เวลาไทย นั่นเอง
.
โตเกียวเกมส์
21 ก.ค. – 8 ส.ค.
โอลิมปิก เกมส์ ครั้งที่วุ่นวายที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยผลพวงจากสถานการณ์แพร่ระบาดของ โควิด19 ทำให้ต้องถูกเลื่อนออกมาจากกลางปีที่แล้ว และมาถึงตรงนี้ก็ยังมีหลายเสียงที่ชูธงค้าน เห็นว่าควรยกเลิกไปเสียเมื่อกรุงโตเกียวยังอยู่ในจุดไม่น่าไว้วางใจต่อโควิด
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายจัดยืนยันหนักแน่นในการ ไปต่อ ไม่ยกเลิกและไม่เลื่อน โดยใช้ชื่อว่า โตเกียว2020 ลักษณะเดียวกับ ยูโร 2020
โตเกียว ถูกเลือกเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก เป็นครั้งที่ 3 ถัดจากปี 1940 และ 1964 ซึ่งหมายถึงว่าครั้งล่าสุดต้องย้อนไปไกลถึง 57 ปีที่แล้วทีเดียว
มหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติครั้งนี้จะมีแข่งขันกัน 339 รายการใน 33 ชนิดกีฬา โดยมี 206 ชาติและนักกีฬานับหมื่นชีวิตเข้าร่วม เริ่มเปิดฉากอย่างเป็นทางการตั้งแต่ 23 ก.ค. ไปจนถึงวันรูดม่าน 8 ส.ค. เพื่อส่งไม้ต่อให้ “ปารีส 2024” ต่อไป
สำหรับประเด็นสำคัญของชาวเราก็คือ ฟุตบอลชาย ซึ่งนอกจาก โตเกียว แล้วก็ถือได้ว่าเป็นการจับมือเป็นเจ้าภาพร่วมกันของทั้งประเทศ ด้วยการที่ทั้ง คาชิม่า, ไซตามะ, ซัปโปโร, เซนได และ โยโกฮาม่า ก็จะได้ร่วมเปิดสังเวียนจัดหลายแมตช์ด้วย
ฟุตบอลชาย โตเกียว เกมส์ 2020 จะเริ่มสาดแข้งกันก่อนวันเปิดเป็นทางการสองวัน คือ 21 ก.ค. แล้วไปสิ้นสุดชิงเหรียญทองเอา 7 ส.ค. ที่โยโกฮาม่า
ระบบการแข่งขันไม่ซับซ้อน 4 กลุ่ม 16 ทีม เอา 2 อันดับแรกของแต่ละกลุ่มเข้ารอบน็อกเอาต์
กลุ่มเอ – ญี่ปุ่น, แอฟริกาใต้, เม็กซิโก, ฝรั่งเศส
กลุ่มบี – นิวซีแลนด์, เกาหลีใต้, ฮอนดูรัส, โรมาเนีย
กลุ่มซี – อียิปต์, สเปน, อาร์เจนติน่า, ออสเตรเลีย
กลุ่มดี – บราซิล (แชมป์เก่า), เยอรมนี, ไอวอรี่โคสต์, ซาอุดีอาระเบีย
บอลชาย ยังคงมีการจำกัดอายุ ยู-24 และให้โควตานักเตะอายุเกินได้ 3 ราย นั่นทำให้เราจะได้เห็น แข้งซูเปอร์สตาร์ เหล่านี้ ลงชิงชัยในโอลิมปิก…
ญี่ปุ่น – มายะ โยชิดะ (32, ซามพ์โดเรีย), ฮิโรกิ ซากาอิ (31, อุราวะ เร้ดส์), วาตารุ เอ็นโดะ (28, สตุ๊ตการ์ท)
ฝรั่งเศส – อองเดร-ปิแอร์ ชีญัก (35, ติเกรส), ฟลอริยอง โตแว็ง (28, ติเกรส)
เม็กซิโก – กิเยร์โม่ โอชัว (36, คลับ อเมริกา)
นิวซีแลนด์ – วินสตัน รีด (33, เบรนท์ฟอร์ด), คริส วู้ด (29, เบิร์นลี่ย์)
เกาหลีใต้ – ฮวาง อุย-โจ (28, บอร์กโดซ์)
สเปน – มาร์โก อเซนซิโอ (25, เรอัล มาดริด), มิเกล เมริโน่ (25, โซเซียดัด), ดานี่ เซบายอส (24, เรอัล มาดริด)
บราซิล – ดานี่ อัลเวส (38, เซา เปาโล), ดีเอโก้ คาร์ลอส (28, เซบีย่า) / ริชาร์ลิซอน, ดั๊กลาส ลุยซ์, มาเตอุส คุนญ่า, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ติดทีมไปโดยที่อายุไม่เกิน
เยอรมนี – มักซิมิเลี่ยน อาร์โนลด์ (27, โวล์ฟสบวร์ก), มักซ์ ครูเซ่ (33, อูนิโอน เบอร์ลิน), นาดีม อมิรี่ (24, เลเวอร์คูเซ่น)
ไอวอรี่โคสต์ – เอริก ไบยี่ (27, แมนฯ ยูไนเต็ด), ฟร้องค์ เกสซิเย่ (24, เอซี มิลาน), มักซ์ กราเดล (33, ซิวาสสปอร์)
บอลชาย จะเตะกันเวลาดี๊ดี บ่ายสาม กับ หกโมงเย็น (เป็นส่วนใหญ่) เวลาไทย และงานนี้ PPTV ยืนยันคิวถ่ายทอดสดให้ชมถึงบ้าน บางแมตช์แล้วเช่นกัน (บราซิล-เยอรมนี หกโมงครึ่ง 22 ก.ค.)
ขณะที่ในส่วนของ “ฟุตบอลหญิง” ไม่มีการจำกัดอายุ ใครอยากใส่ใครมาทำได้เต็มที่ โดยจะเริ่มเล่น 21 ก.ค. จนถึงชิงเหรียญทอง 6 ส.ค. ซึ่งงานนี้สาวไทยไม่ได้เข้ารอบสุดท้าย ตกคัดเลือกรอบสาม ฉะนั้นก็ถือว่าไม่ได้น่าสนใจอะไรเท่าไหร่!
.
รอบคัดเลือกถ้วยยุโรป
ควบคู่ไปกับ คอนคาเคฟ โกลด์ คัพ และบอลลีกเล็กยิบย่อยที่เตะกันอยู่ในทุกค่ำคืนของช่วงนี้
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
- Preliminary round เตะไปแล้ว เสร็จเมื่อ 25 มิ.ย.
- รอบคัดเลือกรอบแรก (First qualifying round) เพิ่งเตะจบไปเมื่อ 14 ก.ค. เป็นการเจอกันของทีมจากลีกเล็ก ๆ เช่น อิสราเอล, ไอร์แลนด์เหนือ, มาซิโดเนีย, บัลแกเรีย ฯลฯ ผู้ชนะผ่านเข้ารอบ 2 / ผู้แพ้ตกไปเล่นรอบคัดเลือก ยูฟ่า ยูโรป้า คอนเฟอเรนซ์ ลีก ต่อ
- รอบคัดเลือกรอบ 2 เลกแรก 20-21 เลกสอง 27-28 ก.ค. (League Path ราปิด เวียนนา – สปาร์ต้า ปราก / เซลติก – มิดทิลลันด์ / พีเอสวี – กาลาตาซาราย)
- รอบคัดเลือกรอบ 3 เลกแรก 3-4 เลกสอง 10 ส.ค. (มีทีมอย่าง โมนาโก, เบนฟิก้า, ชัคตาร์)
- รอบเพลย์ออฟ เลกแรก 17-18 เลกสอง 24-25 ส.ค.
- รอบแบ่งกลุ่ม เริ่มต้น 14 ก.ย. เป็นต้นไป
ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก
- รอบคัดเลือกรอบ 3 เลกแรก 5 เลกสอง 12 ส.ค.
- รอบเพลย์ออฟ เลกแรก 19 เลกสอง 26 ส.ค.
- รอบแบ่งกลุ่ม เริ่มต้น 16 ก.ย. เป็นต้นไป
ยูฟ่า ยูโรป้า คอนเฟอเรนซ์ ลีก
รายการน้องใหม่ เพิ่งคลอดปีนี้ เกิดขึ้นด้วยหวังจะเปิดทางให้ทีมเล็ก ๆ ได้ลืมตาอ้าปากคว้าโทรฟี่ระดับยุโรปกับเขาบ้าง
- รอบคัดเลือก รอบแรก-รอบสอง-รอบสาม เริ่ม 8 ก.ค. จนกระทั่ง 12 ส.ค.
- รอบเพลย์ออฟ เลกแรก 19 เลกสอง 26 ส.ค. (สเปอร์ส, โรม่า, แรนส์, ผู้แพ้จากรอบคัดเลือกยูโรป้าลีก)
- รอบแบ่งกลุ่ม เริ่มต้น 16 ก.ย. เป็นต้นไป (วันเดียวกับยูโรป้าลีก)
ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2021
เชลซี – บียาร์เรอัล
11 ส.ค.
วินเซอร์ พาร์ค, เบลฟาสต์
.
ปรีซีซั่น
บางชาติยักษ์ใหญ่ยังคงปล่อยพักกันอยู่หลัง ยูโร เพิ่งจบได้ไม่กี่วัน แต่หลาย ๆ ทีมของ พรีเมียร์ลีก นัดแนะนักเตะ (และกุนซือใหม่ของตัว) ให้ทยอยกลับมาเข้าแคมป์กันเป็นที่เรียบร้อย ก่อนที่ฤดูกาลใหม่จะมาเคาะประตู ก๊อกแรก 13 ส.ค.
ไม่เท่านั้น บางทีมยังลงเล่นเกมปรีซีซั่นนัดแรกไปแล้วด้วย เช่น อาร์เซน่อล ที่ส่งนักเตะอย่าง วิลเลี่ยน (พุงพลุ้ย!), ปิแอร์-เอเมริก โอบาเมยัง, นิโกล่าส์ เปเป้, เอมิล สมิธ โรว์, เอ๊ดดี้ เอ็นเคเทียห์, ปาโบล มารี, อเล็กซองดร์ ลากาแซตต์, เอ็กตอร์ เบเยริน ลงไปแพ้ ฮิเบอร์เนี่ยน 1-2 เมื่อวันอังคาร
ที่แตกต่างไปจากปีก่อน ๆ คือทัวร์นาเมนต์ยักษ์ชนยักษ์ ICC อินเตอร์เนชันแนล แชมเปี้ยนส์ คัพ ปีนี้ ไม่มี เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังไม่สงบลงในหลายประเทศ และหลายทีมในพรีเมียร์ลีกเลือก นัดมาเจอกันเอง ด้วยไม่อยากบินไปเสี่ยงโควิดต่างแดน นั่นเอง
และเหล่านี้คือคิวเตะปรีซีซั่นของบรรดา บิ๊กซิกซ์ พรีเมียร์ลีก
อาร์เซน่อล
เป็นทีมเดียวของกลุ่มหัวแถวพรีเมียร์ลีก ที่จะไปโชว์ตัวสหรัฐอเมริกา ลงเล่นรายการ ฟลอริด้า คัพ 2 นัด
13 ก.ค. แพ้ ฮิเบอร์เนี่ยน 1-2
17 ก.ค. กลาสโกว์ เรนเจอร์ส
25 ก.ค. (ฟลอริด้า คัพ) อินเตอร์ มิลาน
28 ก.ค. (ฟลอริด้า คัพ) เอฟเวอร์ตัน หรือ มิโยนาริออส
1 ส.ค. (The Mind Series) เชลซี
8 ส.ค. (The Mind Series) สเปอร์ส
เชลซี
วางคิวปรีซีซั่นไว้แค่ 3 นัด เนื่องจากมีคิวชิงถ้วย ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ก่อนเปิดซีซั่นใหม่พรีเมียร์ลีกไม่กี่วัน
27 ก.ค. บอร์นมัธ
1 ส.ค. (The Mind Series) อาร์เซน่อล
4 ส.ค. (The Mind Series) สเปอร์ส
11 ส.ค. ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ
ลิเวอร์พูล
หงส์แดง บินไปเก็บตัวที่ออสเตรียยาวเลย โดยจะลงเล่น 4 เกมด้วยกัน
20 ก.ค. (มินิเกม 30 นาที) วัคเกอร์ อินน์สบรุค
20 ก.ค. (มินิเกม 30 นาที) สตุ๊ตการ์ท
23 ก.ค. ไมน์ซ
29 ก.ค. แฮร์ธ่า เบอร์ลิน
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
คอนเฟิร์มคิวเตะปรีซีซั่นไว้แค่ 2 นัดเท่านั้น ก่อนลงเตะ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ในฐานะแชมป์เก่าพรีเมียร์ลีก
27 ก.ค. เปรสตัน
31 ก.ค. ทรัวส์
7 ส.ค. (คอมมิวนิตี้ ชิลด์) เลสเตอร์ ซิตี้
25 ส.ค. (ไม่ใช่ปรีซีซั่น เป็นรายการ โจน กัมเปร์ โทรฟี่) บาร์เซโลน่า
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เพราะโควิด ปีนี้ผีแดงจึง ไม่ออกต่างแดน ที่ไหนทั้งสิ้น สำหรับคิวปรีซีซั่น 5 นัด
18 ก.ค. ดาร์บี้ (เยือน)
24 ก.ค. ควีนส์พาร์ค เรนเจอร์ส (เยือน)
28 ก.ค. เบรนท์ฟอร์ด (เหย้า)
31 ก.ค. เปรสตัน (เยือน)
7 ส.ค. เอฟเวอร์ตัน (เหย้า)
ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์
ในการทำทีมของกุนซือใหม่ นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ ไก่เดือยทองที่เลือกไม่ออกเตะต่างแดนเช่นกัน จะลงเล่นปรีซีซั่น 5 นัด ก่อนตามด้วยรอบเพลย์ออฟ ยูโรป้า คอนเฟอเรนซ์ ลีก
17 ก.ค. เลย์ตัน โอเรียนท์
21 ก.ค. โคลเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
28 ก.ค. เอ็มเค ดอนส์
4 ส.ค. (The Mind Series) เชลซี
8 ส.ค. (The Mind Series) อาร์เซน่อล
.
ตลาดนักเตะ
ตลาดซัมเมอร์เปิดทำการตั้งแต่ปลายเดือน พ.ค. และจะปิดตัวลง 2 ก.ย. ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็มี บิ๊กดีล แล้วประปราย และต้องจับตากันยาว ๆ ไปสำหรับ ซูเปอร์ดีล ที่อาจมีเกิดขึ้นช่วงท้าย ๆ หรือในวันปิดตลาด
บางดีลใหญ่ที่ยืนยันแล้ว
- อิบราฮิมา โกนาเต้ (ไลป์ซิก > ลิเวอร์พูล)
- จูเนียร์ ฟีร์โป้ (บาร์เซโลน่า > ลีดส์)
- บูบาคารี่ ซูมาเร่ (ลีลล์ > เลสเตอร์)
- แอชลี่ย์ ยัง (อินเตอร์ > วิลล่า)
- เซร์คิโอ อเกวโร่ (แมนฯ ซิตี้ > บาร์เซโลน่า)
- โรดริโก้ เด ปอล (อูดิเนเซ่ > แอตฯ มาดริด)
- รุย ปาตริซิโอ (วูล์ฟส์ > โรม่า)
- เจดอน ซานโช่ (ดอร์ทมุนด์ > แมนฯ ยูไนเต็ด)
- เปแอสเช ได้ตัว จานลุยจิ ดอนนารุมม่า, เซร์คิโอ รามอส, จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม
.
เปิดฤดูกาลใหม่
หมดยูโร จบโคปา แล้วอีกเดี๋ยว ทั้งโกลด์คัพ, โอลิมปิก, รอบคัดเลือกถ้วยยุโรป จนถึงบรรดาเกมปรีซีซั่น ก็จะผ่านพ้นไป จากนั้นก็คือสิ่งที่โลกลูกหนังรอคอย – การเริ่มต้นซีซั่นใหม่ 2021/22 อย่างเป็นทางการ!
พรีเมียร์ลีก
ศุกร์ 13 ส.ค. ตีสอง เบรนท์ฟอร์ด – อาร์เซน่อล
เสาร์ 14 ส.ค.
หกโมงครึ่ง แมนฯ ยูไนเต็ด – ลีดส์
สามทุ่ม เบิร์นลี่ย์ – ไบรท์ตัน
สามทุ่ม เชลซี – คริสตัล พาเลซ
สามทุ่ม เอฟเวอร์ตัน – เซาธ์แฮมป์ตัน
สามทุ่ม เลสเตอร์ – วูล์ฟส์
สามทุ่ม วัตฟอร์ด – แอสตัน วิลล่า
ห้าทุ่มครึ่ง นอริช – ลิเวอร์พูล
อาทิตย์ 15 ส.ค.
สองทุ่ม นิวคาสเซิ่ล – เวสต์แฮม
สี่ทุ่มครึ่ง สเปอร์ส – แมนฯ ซิตี้
ลีก เอิง เสาร์ 7 ส.ค.
ลา ลีกา ศุกร์ 13 ส.ค.
บุนเดสลีกา ศุกร์ 13 ส.ค.
กัลโช่ เซเรีย อา อาทิตย์ 22 ส.ค.