ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เชลซี 2 – เลสเตอร์ 1
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์
ทั้งสองทีมเพิ่งเจอกันในเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ ที่ เลสเตอร์ ซิตี้ เฉือนชนะ 1-0 คว้าแชมป์ไปครองสมัยแรก มาเจอกันนัดนี้ ทั้งสองทีมยังเน้นชุดใหญ่ ปรับทัพไม่มากนัก
เริ่มเกมมานาที 18 เชลซี เกือบได้จุดโทษเมื่อ ยูริ ตีเลมันส์ ไปเตะใส่ข้อเท้า ทิโม แวร์เนอร์ ในเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินไม่ได้ว่าอะไร
เชลซี เป็นฝ่ายส่งบอลตุงตาข่ายได้ในนาที 22 จากจังหวะที่ เมสัน เมาท์ ไหลบอลให้ ทิโม แวร์เนอร์ หลุดไปซัด ทว่าถูกจับล้ำหน้า
เจ้าถิ่นสิงห์บลูส์มีเรื่องต้องปวดหัวเมื่อ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ได้รับบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว ต้องเปลี่ยนให้ มาเตโอ โควาซิช ลงแทนในนาที 32
นาที 34 เชลซี ส่งบอลตุงตาข่ายได้อีกครั้งจากลูกเตะมุมที่ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า โขกเช็ดต่อไปให้ ทิโม แวร์เนอร์ ได้ขวิดเสาไกลเข้าไป แต่ภาพช้าชัดเจนว่าโดนมือของหัวหอกเยอรมัน ทำให้ถูกริบประตูคืน
เชลซี พยายามลุยต่อ จอร์จินโญ่ โยนยาวให้ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า หักกลับมาที่ เมสัน เมาท์ ยิงด้วยขวา แต่เฉียดคานออกหลัง จากนั้นจบครึ่งแรกเสมอกัน 0-0
ครึ่งหลัง เริ่มได้นาทีครึ่ง เชลซี ออกนำ 1-0 จนได้จากเตะมุม วาร์ดี้ พยายามขึ้นโหม่งแต่โดนไม่ดี กลายเป็นบอลตกใส่หน้าขาของ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ที่กระแทกบอลจ่อๆ เข้าไป
นาที 66 เชลซี ได้จุดโทษหลังผู้ตัดสินเช็กวีเออาร์พบว่า แวร์เนอร์ โดน โฟฟาน่า ทำฟาวล์ ก่อนเป็น จอร์จินโญ่ รับหน้าที่ยิงผ่าน แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล เข้าไปนิ่มๆ
จิ้งจอกฮึดตีไข่แตกในนาที 77 เมื่อ โควาซิช โดน เอ็นดีดี้ แย่งบอลได้ก่อนไหลให้ เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ที่ลงมาเป็นสำรอง ยิงด้วยซ้ายในเขตโทษเสียบเสาเข้าไป สกอร์กลับมาเป็น 2-1
ช่วงเวลาที่เหลือ เลสเตอร์ ไม่สามารถตามตีเสมอได้แถมมีเหตุเกือบวางมวยกันในช่วงทดเจ็บ แต่สุดท้ายก็แยกกันได้ ทำให้จบเกม เชลซี ถอนแค้นเอาชนะ 2-1 พร้อมแซงขึ้นไปอยู่ที่ 3 ของตาราง ส่วน เลสเตอร์ หล่นมาที่ 4 ต้องลุ้นท็อปโฟร์ในนัดสุดท้าย