22 พฤษภาคม 2021 // 15:12 น.

แปดเซียนประดับหอเกียรติยศ

เป็นอันเสร็จสิ้นเรียบร้อยหลังจาก พรีเมียร์ลีก ประกาศจัดตั้งรางวัล “Hall of Fame” สำหรับนักฟุตบอลทรงคุณค่าที่มีผลงานการเล่นอันโดดเด่น นับตั้งแต่ที่มีการก่อตั้งพรีเมียร์ลีกเมื่อปี 1992 เป็นต้นมา และแขวนสตั๊ดหรือประกาศเลิกเล่นไปแล้วก่อนวันที่ 1 สิงหาคม ปี 2020 ซึ่งรางวัลนี้ถือเป็นรางวัลสูงสุดในหมวดรางวัลส่วนบุคคลของลีกอังกฤษเลยทีเดียว

“Hall of Fame” หรือรางวัลหอเกียรติยศนั้น เป็นรางวัลใหม่ที่พรีเมียร์ลีกจัดตั้งขึ้นเป็นปีแรก โดยคัดเลือกนักฟุตบอลทั้งหมด 8 คนเข้าหอเกียรติยศประจำปี 2021 โดยเป็นการคัดเลือกจากทางพรีเมียร์ลีกอยู่ก่อนแล้ว 2 คน ซึ่งประกาศรายชื่อไปเมื่อวันที่ 19 มี.ค. ที่ผ่านมา อันได้แก่ “อลัน เชียเรอร์” และ “เธียร์รี่ อองรี” โดยในวันเดียวกันนั้นเองมีการประกาศรายชื่ออีก 23 คนของผู้ถูกเสนอชื่อเพื่อเปิดโอกาสให้แฟน ๆ ได้ร่วมโหวตเลือกนักเตะที่ตนเองชื่นชอบอีก 6 คนที่เหลือ ที่จะได้มีชื่อเข้าใน “Premier League Hall of Fame”

โดยรายชื่อทั้ง 23 คนที่ถูกเสนอชื่อให้แฟนบอลทั่วโลกได้ร่วมโหวตได้แก่
โทนี่ อดัมส์
เดนนิส เบิร์กแคมป์
เอียน ไรท์
ปาทริค วิเอร่า
โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
เอริก คันโตน่า
แอนดี้ โคล
เดวิด เบ็คแฮม
ริโอ เฟอร์ดินานด์
รอย คีน
ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล
พอล สโคลส์
เนมานย่า วิดิช
จอห์น เทอร์รี่
แฟร้งค์ แลมพาร์ด
ดิดิเย่ร์ ดร๊อกบา
แอชลี่ย์ โคล
ร็อบบี้ ฟาวเลอร์
สตีเว่น เจอร์ราร์ด
ไมเคิ่ล โอเว่น
เลส เฟอร์ดินานด์
โซล แคมป์เบลล์
แม็ทธิว เลอ ทิสซิเอร์

ทั้งนี้ คุณสมบัตินักฟุตบอลที่อยู่ในลิสต์ต้องผ่านการลงเล่นในพรีเมียร์ลีกไม่น้อยกว่า 250 นัดขึ้นไป หรือ เป็นผู้เล่นที่ได้รับรางวัลเช่น ลงเล่นให้กับสโมสรเดียวเกิน 200 นัด หรือ ติดทีมยอดเยี่ยมครบรอบ 20 ปี, ดาวซัลโวประจำฤดูกาล, ถุงมือทองคำ, รางวัลผู้เล่นแห่งปีของพรีเมียร์ลีก, เคยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก, ยิงประตูเกิน 100 ประตู หรือ เก็บคลีนชีตเกิน 100 นัด (เฉพาะผู้รักษาประตู)

และเป็นที่ทราบโดยทั่วกันแล้ว เมื่อพรีเมียร์ลีกประกาศรายชื่อนักฟุตบอลทั้ง 8 คนที่ได้รับเกียรติเสนอชื่อเข้าไปอยู่ในหอเกียรติยศพรีเมียร์ลีกประจำปี 2021 ได้แก่

อลัน เชียเรอร์
ยอดดาวยิงตลอดกาลพรีเมียร์ลีก เชียเรอร์ เกิดวันที่ 13 สิงหาคม 1970 ที่เมืองนิวคาสเซิ่ล ปัจจุบันอายุ 51 ปี เริ่มต้นอาชีพด้วยการค้าแข้งกับสโมสร เซาธ์แฮมป์ตัน (ดิวิชั่น 1 เดิม) เขาสามารถสร้างชื่อได้ทันทีด้วยการยิงแฮตทริก ใส่ อาร์เซน่อล ในเกมแรกที่ลงสนาม ทำให้กลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ทำแฮตทริกได้ในลีกสูงสุดของประเทศในเวลานั้น ด้วยวัยเพียง 17 ปีกับอีก 240 วัน และต่อมาย้ายไปร่วมทีม แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ในช่วงต้นของพรีเมียร์ลีก และในฤดูกาลปี 1994-95 เชียเรอร์ยิงไป 34 ประตู พาแบล็คเบิร์นคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ นับเป็นแชมป์แรกและแชมป์เดียวในชีวิตการค้าแข้งของเขา นอกจากจะได้เหรียญแชมป์แล้ว เชียเรอร์ ยังได้รางวัล PFA นักเตะยอดเยี่ยมประจำปีอีกด้วย ก่อนที่สุดท้ายจะย้ายไปเล่นให้ นิวคาสเซิ่ล ทีมบ้านเกิดจนกระทั่งแขวนสตั๊ด “ฮอตช็อต” ลงเล่นไปทั้งหมด 441 นัดยิงไป 260 ประตูตลอดการค้าแข้งงบนเวทีพรีเมียร์ลีก

เธียร์รี่ อองรี
ศูนย์หน้าชาวฝรั่งเศส เกิดเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 1977 ปัจจุบันอายุ 43 ปี เริ่มต้นค้าแข้งอาชีพกับ โมนาโก ก่อนย้ายไป ยูเวนตุส และมาปักหลักสร้างชื่อนักเตะระดับโลกกับ อาร์เซน่อล ในเวทีพรีเมียร์ลีกด้วยการค้นพบและเจียระไนของ อาร์แซน เวนเกอร์ จนเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของสโมสรที่ 227 ประตูกับทุกรายการ โดยเป็น 175 ประตูเฉพาะในพรีเมียร์ลีก คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ 2 สมัยปี 2001/02 กับ 2003/04 และแชมป์เอฟเอ คัพ 3สมัยในปี 2002, 2003, 2005 และยังมีรางวัลส่วนตัวอีกมากมาย เช่น นักฟุตบอลยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ 2 สมัย 2002/03, 2003/04, ทีมยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ 6 ครั้ง, รางวัลรองเท้าทองคำพรีเมียร์ลีก 4 ครั้ง, ประตูแห่งฤดูกาล 2002/03, ติดทีมแห่งทศวรรษ และรางวัลระดับโลกอีกมากมาย ถือเป็นกองหน้าที่ดีที่สุดคนนึงของพรีเมียร์ลีกเท่าที่เคยมีมาเลยทีเดียว

เอริก คันโตน่า
กองหน้าตำนานคอปกตั้งของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กองหน้าชาวฝรั่งเศลเกิดเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 1966 ปัจจุบันอายุ 54 ปี คันโตน่า เริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลด้วยการลงเล่นในลีกบ้านเกิดจนกระทั่งปี 1992 ลีดส์ ยูไนเต็ด เซ็นสัญญาเข้ามาเล่นในลีกอังกฤษภายใต้ชื่อดิวิชั่น 1 เดิม และพายูงทองเถลิงบัลลังก์แชมป์ดิวิชั่น 1 (เดิม) ได้ทันทีในฤดูกาลนั้นเอง (1991-92) ในปีถัดมาเขาได้ย้ายมาเล่นในโรงละครแห่งความฝัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และนั่นถือเป็นปีแรกของลีกสูงสุดภายใต้ชื่อ พรีเมียร์ลีก เอริก คันโตน่า ลงเล่นในลีกอังกฤษไปทั้งหมด 171 นัด ทำประตูไป 73 ประตู คันโตน่าอาจไม่ใช่ดาวยิงจอมถล่มประตู แต่เขามีส่วนสำคัญอย่างมากในการไล่ล่าความสำเร็จกับ แมนฯ ยูฯ โดยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัย ปี 1992–93, 1993–94, 1995–96, 1996–97, แชมป์ เอฟเอ คัพ 2 สมัย ปี 1993–94, 1995–96 จนได้รับการโหวตจากแฟนทีมให้เป็นนักฟุตบอลแห่งศตวรรษในปี 2000 แฟน ๆ ยังคงกล่าวถึง เอริก คันโตน่า โดยเรียกเขาว่า “เอริก เดอะ คิง” จนถึงทุกวันนี้

รอย คีน
เกิดเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 1971 ปัจจุบันอายุ 50 ปี ตำนานกัปตันทีมกองกลางพันธุ์ระห่ำของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขาอาจทำประตูได้ไม่มากนักแต่มีบทบาทสำคัญในฐานะกองกลางตัวตัดเกม รอย คีน ลงเล่นบนเวทีพรีเมียร์ลีกไป 366 นัด โดยเริ่มต้นค้าแข้งกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ในปี 1992-1993 ก่อนจะย้ายมาอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด จนถึงฤดูกาล 2004-2005 คีน คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ถึง 7 สมัยในฤดูกาล 1993-94, 1995-96, 1996-97, 1998-99, 1999-2000, 2000-01, 2002-03 ถือเป็นช่วงยุคทองของ แมนฯ ยูฯ เลยทีเดียว โดยกองกลางพันธุ์ดุผู้นี้ถือเป็นผู้เล่นที่ทรงอิทธิพลอย่างมากในเวลานั้น

แฟร้งค์ แลมพาร์ด
อดีตกองกลางห้องเครื่องคนสำคัญของ เชลซี ยุคไล่ล่าแชมป์พรีเมียร์ลีก แลมพาร์ด ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกตั้งแต่ปี 1995-2015 ทั้งหมด 609 นัดกับ เวสต์แฮม, เชลซี และ แมนฯ ซิตี้ ทำไป 177 ประตูในลีกและ 257 ประตูตลอดอาชีพการค้าแข้งกับทุกสโมสร แลมพาร์ด ถือเป็นกองกลางคนที่ 2 ที่ทำได้เกิน 100 ประตูต่อจาก แม็ทธิว เลอ ทิสซิเอร์ และเขายังเป็นเจ้าของสถิติกองกลางที่ทำประตูได้มากสุดใน 1 ฤดูกาล ที่ 27 ประตูในฤดูกาล 2009-10 แลมพาร์ด คว้าแชมป์ภายในประเทศมากมายกับเชลซี แบ่งเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัยในฤดูกาล 2004-05, 2005-06, 2009-10, แชมป์เอฟเอ คัพ 4 สมัยในปี 2007, 2009, 2010, 2012, แชมป์ลีกคัพ 2 สมัยในปี 2005, 2007 ส่วนรางวัลส่วนตัวที่เขาได้รับ คือรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของสมาคมผู้สื่อข่าวอังกฤษในปี 2005

เดนนิส เบิร์กแคมป์
อีกหนึ่งตำนานศูนย์หน้าทีมอาร์เซน่อล ชาวดัตช์ เบิร์กแคมป์ เกิดเมื่อวันที่10 พฤษภาคม 1969 ปัจจุบันอายุ 52 ปี เริ่มต้นอาชีพกับ อาแจ็กซ์ แล้วย้ายไป อินเตอร์ มิลาน ก่อนมาเป็นสุดยอดดาวยิงที่อังกฤษกับ อาร์เซน่อล เบิร์กแคมป์ ค้าแข้งกับเดอะ กันเนอร์ส ตั้งแต่ปี 1995-2006 ทำประตูให้ทีมไป 87 ประตูรวมทุกรายการ กลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีมในตำแหน่งกองหน้า เมื่อสามารถพาทีมเป็นดับเบิ้้ลแชมป์ พรีเมียร์ลีกและเอฟเอ คัพ ในฤดูกาล 1997–98 รวมทั้งได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของสมาคมผู้สื่อข่าวอังกฤษในปีเดียวกัน เบิร์กแคมป์เป็นผู้เล่นกองหน้าที่มีความสุขุมเยือกเย็น จนได้รับฉายาว่า “Iceberg”

สตีเว่น เจอร์ราร์ด
อดีตกองกลางกัปตันทีม ลิเวอร์พูล แม้เขาจะเป็นคนเดียวที่ได้รับการเสนอชื่อเข้า ฮอลล์ ออฟ เฟม ในปีนี้โดยที่ไม่เคยสัมผัสแชมป์พรีเมียร์ลีกเลยตลอดอาชีพการค้าแข้งบนลีกอังกฤษกับหงส์แดง ตั้งแต่ปี 1998-2015 ซึ่งนับเป็นสโมสรเดียวในอังกฤษที่เจอร์ราร์ดเคยเล่นให้ แต่กระนั้นก็ดี อดีตกัปตันหงส์แดงสร้างชื่อให้กับตนเองไว้มากมาย ถือเป็นยอดนักเตะที่ได้รับการยกย่องอย่างสูงสุดทั้งเรื่องฝีเท้าและการเป็นแบบอย่างที่ดี เจอร์ราร์ด ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกทั้งหมด 504 นัด ทำประตูได้ 120 ประตูกับอีก 92 แอสซิสต์ เขาเคยได้รับรางวัลส่วนตัวมากมาย อาทิเช่น นักฟุตบอลยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ ปี 2006 นักฟุตบอลยอดเยี่ยมของสมาคมผู้สื่อข่าวอังกฤษปี 2009 และติดทีมยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ 8 ครั้งด้วยกันในปี 2001, 2004, 2005, 2006, 2007, 2008, 2009, 2014 อีกทั้ง เจอร์ราร์ด ยังได้รับเครื่องราชอิสยาภรณ์ชั้น เอ็มบีอี ในปี 2007 อีกด้วย

เดวิด เบ็คแฮม
กองกลางเท้าชั่งทอง เกิดเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 1975 ปัจจุบันมีอายุ 46 ปี เบ็คแฮม เป็นผลผลิตและเติบโตมากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างแท้จริง นอกจากหน้าตาอันหล่อเหลาแล้วเขายังมีพรสวรรค์ด้านลูกนิ่งที่หาตัวจับยากจนถึงปัจจุบัน เบ็คแฮม เล่นฟุตบอลอาชีพกับแมนฯ ยูฯ ตั้งแต่ปี 1992 จนกระทั่งย้ายออกไปในปี 2003 ลงเล่นไป 260 นัดทำไป 60 ประตู ในพรีเมียร์ลีก คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 6 สมัยในปี1995-96, 1996-97, 1998-99, 1999-2000, 2000-01, 2002-03, เอฟเอคัพ 2 สมัยในปี 1995-96, 1998-99 เกียรติประวัติส่วนตัว ได้รับนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของพีเอฟเอปี 1996-97 รางวัล PFA Team of the Year 4 สมัย เบ็คแฮมยังได้รับเกียรติสูงสุดเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นโอบีอี (Officer of the Order of the British Empire) จากสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 เดวิด เบ็คแฮม นับเป็นอีกหนึ่งไอค่อนสำหรับวงการฟุตบอลแห่งยุคอีกด้วย

ถือว่าทั้ง 8 คนที่ถูกเสนอชื่อเข้าหอเกียรติยศ Premier League Hall of Fame ประจำปี 2021 นี้ เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง และยังมีตำนานในวงการฟุตบอลอังกฤษอีกหลายคนที่สร้างชื่อให้กับตนเองและสโมสรที่เคยเล่นให้ จนกลายเป็นที่โจษจันพูดถึงกันจนทุกวันนี้ และเหมาะสมคู่ควรรอวันที่จะมีชื่อขึ้นประดับในหอเกียรติยศเฉกเช่นเดียวกับตำนานลูกหนังที่กล่าวมาข้างต้น

– สิฎฐิเศรษฐ์ –